วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Galaxy Player

     หากพูดถึงเครื่องมัลติมีเดียเคลื่อนที่ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์แน่นอนว่า iPod หรือ Walkman คือตัวเลือกที่คนส่วนใหญ่สนใจ แต่ก็ใช่จะมีเพียง 2 แบรนด์เท่านั้น ยังมีอีกหลากหลายแบรนด์ที่หันมาทำเครื่องเล่นมีเดียมากขึ้น  และแน่นอนที่ขาดไม่ได้ก็คือ Samsung ที่หันมาทำเครื่องเล่นพกพาเหมือนกัน
     และเมื่อตลาดสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทแน่นอนว่า Samsung ไม่ปล่อยโอกาสของแบรนด์ชั้นนำอันดับต้น หลุดโอกาสไม่ง่ายๆด้วยการพัฒนา เครื่องเล่นพกพาให้มีความสามารถมากขึ้นด้วยการใส่ระบบปฎิบัติการณ์เดียวกับสมาร์ทโฟนเข้าไปด้วย   "Galaxy Plyer" คือรุ่นรหัสสำหรับเครื่องเล่นมัลติมีเดียที่มีดีกรีของสมาร์ทโฟน เปิดตัวกับ Galaxy WiFi 5.0 ต่อด้วย Galaxy WiFi 3.6 และล่าสุดกับ Galaxy 4.2 

 - ขนาด 124.1 x 66.1 x 8.9 ม.ม. , น้ำหนัก 118 กรัม
- รองรับการใช้งาน WiFi , Bluetooth 3.0
- หน้าจอ TFT-LCD  Capacitive 4.2 นิ้ว (ความละเอียด 800x480 พิคเซล), ทัชสกรีน 10 จุด
- Android 2.3.6 , TouchWiz UI 3.0
- เมมโมรี่ภายใน 8GB (ROM 1GB + Internal 2GB + User 5GB) , เพิ่มเมมโมรี่ภายนอก 32GB
- CPU TI OMAP3630 (1GHz) + PowerVR SGX530 GPU , แรม 512MB
- รับส่ง SMS/MMS/Email , Social Hub Premium 
- ลงแอพพลิเคชั่น Google Play Store
- กล้องความละเอียด 2 ล้านพิคเซล, บันทึกวิดิโอความละเอียด 640x480 พิคเซล (30 fps) + กล้องหน้า VGA
, เครื่องเล่นเพลง MP3 รองรับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- ใช้งาน GPS , A-GPS ผ่าน Google Maps
- โปรแกรมออฟฟิศในตัว (QuickOffice)
- แบตเตอรี่ Li-ion 1,500 mAh



     
แน่นอนว่าิ Samsung Galaxy WiFi 4.2 ไม่ใช่มือถือถึงแม้รูปร่าง หน้าตาจะคล้ายกันมาก แต่ความสามารถก็ไม่ได้เป็นรองมือถือเลย หากใครที่มีมือถือคู่ใจอยู่แล้ว แต่เ้น้นมัลติมีเดีย เพลย์เยอร์ หน้าจอใหญ่ๆสักเครื่อง Samsung Galaxy WiFi 4.2 เครื่องนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย และราคาเปิดตัวคาดว่าไม่ถึง 7,000 บาทด้วยซิ!!! 










วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ลุยน้ำ ลุยแดดไปกับ Sony Xperia Go

     เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วสำหหรับมือถือสายพันธุ์อึดอย่าง Sony Xperia Active ที่มาพร้อมความสามารถในการกันน้ำ กันฝุ่นได้เป็นอย่างดี ทำให้หลายแบรนด์เริ่มหันมาทำตลาดด้านนี้เพิ่มขึ้น แต่คู่แข่งของเจ้า Active ก็มีแบรนด์จากฝั่งอเมริกาอย่าง Motorola Defy


     สำหรับปีนี้ Sony ก็ยังสานต่อมือถือกันน้ำมาอีกโดยใช้ชื่อตามคอนเซปท์ทีเดียวอย่าง Sony Xperia Go โดยแน่นอนว่าสาย Xperia นั้นหน้าตาออกมาคล้ายกันอีกเช่นเคย ด้วยสเปคอย่างหน้าจอกันรอยขีดข่วน Bravia Display 3.5" (480x320) ระบบปฎิบัติการณ์ 2.3.7 (อัพเดต 4.0) กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส พร้อมไฟแฟรช เชื่อมต่อด้วย microUSB ,WiFi ,3G (รองรับการใช้งานแยกรุ่นทั้ง 850/2100 ,900/2100) ,ฺBluetooth ,DLNA รองรับหูฟังขนาด 3.5 ม.ม. หน่วยความจำภายใน 8GB RAM 512MB


     จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ส่วนที่เพิ่มเติมหลักๆคือหน้าจอที่มีขนาดใช้งานได้สะดวกขึ้น และหน่วยความจำภายในที่มากขึ้น และมาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามขึ้นด้วยแต่ยังคงคอนเซปท์กันน้ำได้ที่ระดับ 1 เมตร ซึ่งในตลาดบ้านเราที่มีมือถือสายพันธุ์นี้อาจไม่มีแข่งกันมากนัก แต่ก็น่าสนใจไม่น้อยกับฟ้าฝนช่วงนี้ อย่างน้อยก็ช่วยเซฟเราได้ช่วงเปียกๆอย่างนี้ สนนราคาเปิดตัวที่ 9,990 บาทถือว่าเป็นออลอินวันที่กันน้ำได้อีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ






วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Sony Xperia U ดีไซน์หรู สเปกเก่้ง ราคาดี


หลังจากที่ Sony ฮวบกิจการ Ericsson มาทั้งหมด และ Sony TH เองเริ่มพลิกการตลาดใหม่ ทำให้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา Sony กลายเป็นเหมือนแบรนด์ที่ตายแล้วฟื้นคืนชีพอีกครั้ง 

Xperia คือตระกูลเรียกฐานสาวก Sony ให้กลับมาเลิฟ กับแบรนด์ตัวเองอีกครั้ง บวกกับดีไซน์สุดเท่ เรียบหรู เพิ่มสีสันตามรุ่น ตามทาร์เก็ต ยิ่งเป็นการเรียกแฟนคลับให้กลับมาซบ Sony อีกครั้งได้ไม่ยาก
Sony เปิดตัวรุ่นชูธง Sony Xperis S ไปเมื่อปีที่แล้ว เรียกว่าก่อนวางจำหน่าย กระแสของตัวนี้เป็น Talk of the town ไปเลยในโลกไอที ด้วยสเปคสูงสุดของ Sony มากับดีไซน์โฉมใหม่ให้ซีรี่ย์ Xperia ยิ่งบวกความน่าสนใจเป็นทวีคูณ แต่ก็ใช้ว่าใครใคร่ดีไซน์แบบนี้จะต้องจ่ายถึงตัวชูธง เพราะ Sony ทำรุ่นต่อๆมาด้วยแรงบันดาลจาก Xperia S มาอีกหลายรุ่น









Sony Xperia U คือหนึ่งในรุ่นที่ได้รับแรงบันดาลดีไซน์จากรุ่นพี่ แต่ขอเพิ่มสีสันให้วัยฮิพได้แจมเจ้า Xperia บ้าง Sony Xperia U มาพร้อมหน้าจอ LED backlit LCD 3.5" Dual-Core 1 GHz หน่วยความจำภายใน 4 GB  RAM 512 MB เชื่อมต่อข้อมูลผ่าน microUSB ,WiFi ,3G รองรับ DLNA กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส พร้อมไฟแฟรช กล้องหน้าขนาด VGA ให้เสียงเต็มอรรถรสด้วย sony 3D surround sound รองรับ HTML5 เพิ่มสีสันให้ตัวเครื่องด้วยการเปลี่ยนกรอบด้านล่างด้วยสีสัน (แถมมาในกล่อง) ทั้งหมดนี้มาในราคาไม่ถึงหมื่น!

เดี๋ยวนี้ใครที่ต้อง Dual-Core คงไม่ต้องควักเงินขนาดหมื่นปลายๆกันแล้ว เพราะราคาไม่ถึงหมื่นก็จัด Dual-Core กันได้ และด้วยดีไซน์เท่ๆ แนว Sony คิดว่าเจ้า Xperia U น่าจะเป็นหนึ่งตัวเลือกให้หลายๆคนได้เป็นอย่างดี



วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Huawei Honor

     เริ่มมีเข้ามาเรื่อยๆสำหรับแบรนด์จากแดนมังกร ที่ก่อนหน้านี้มีทั้ง OPPO ,LTE ,LENOVO ที่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง (ไม่นับแบรนด์พี่ใหญ่อย่าง HTC) และอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้เห็นหน้าค่าตากันบ้างแล้ว อย่าง Huawei น้องใหม่้ที่ขอเกิดในไทยแลนด์บ้าง

     Huawei ส่งตัวเลือกมาให้ชาวไทยได้ยลโฉมกันบ้างแล้ว 4-5 รุ่น แต่รุ่นที่ราคากลางๆ สเปคแรงๆก็คงต้องพูดถึง Huawei Honor (U8860) ที่พกราคาค่าตัวมาไม่ถึงหมื่น แต่สเปคเป็นไงบ้างไปดูกัน...

          Huawei Honor มาพร้อมแอนดรอยด์ 4.0.3 (Ice-cream Sandwich) CPU 1.4 GHz มาพร้อมหน้าจอ 4" (480x854 pixel) RAM 512MB หน่วยความจำภายใน 3GB เพิ่มเติมภายนอก 32GB กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้าความละเอียด VGA  รองรับการเชื่อมต่อส่งถ่ายข้อมูลผ่าน microUSB ,WiFi ,Bluetooth ,3G เรียกว่าสเปค สูสีได้กับแบรนด์อื่นๆในระดับหมื่นต้นๆ ถึงหมื่นกลาง แต่สำหรับเจ้า Huawei Honor นั้นไม่ถึงหมื่น! 

          การที่มีแบรนด์ใหม่ๆเข้ามาทำตลาดนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ยิ่งทำให้เกิดการแข่งขันผลดีก็ตกที่ผู้ซื้อ ได้สเปคที่สูงในราคาที่ต่ำ แต่ทั้งที่นี้ทั้งนั้น ผู้ซื้ออย่างเราๆก็ควรต้องตรวจสอบหลายๆปัจจัย ไม่ว่าจะเรื่องบริการหลังการขาย ศูนย์รับซ่อม การอัพเดตซอฟแวร์ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อควรพิจรณาด้วย ถ้าแบรนด์นั้นมีการบริการต่างๆที่ดี ก็จะทำให้แบรนด์นั้นเกิด และติดตลาดได้อย่างรวดเร็ว 




     เป็นอีกแบรนด์ที่น่าจับตามองเช่นกันสำหรับสเปคแรง ราคาต่ำอย่าง Huawei Honor อย่างน้อยๆ Huawei ก็มีสินค้าอื่นๆที่ขายในบ้านเรามาแล้ว อาจจะช่วยการันตีในคุณภาพได้ในระดับนึง หนึ่งในเครื่องแรง ราคาถูกอย่าลืมเจ้า Huawei Honor เป็นตัวเลือกอีกหนึ่งตัวเลือกด้วยนะ ^^"



วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Not Mini to Defy Mini

     ฝนโปรยปรายมาทุกวี่วัน เนื้อตัวก๋เปียกปอนรับสายฝนที่เทกระหน่ำ ตัวเปียกไม่เท่าไรแต่สิ่งของนี้ซิื โดยเฉพาะมือถือคู่ใจ ที่โดนความชื้นเข้าหน่อยก็เซนซิทีฟขึ้นแถบแดง อะไรกันเนี่ย..!

     แนวคิดอึดทึก สำหรับมือถือดูจะมีมานาน            
หลายแบรนด์ หลายรุ่นแต่ที่ยังคงออกมาอยู่
เรื่อยๆ สำหรับมือถือที่เป็นสมาร์ทโฟน แต่ก็
สามารถทนน้ำกันฝุ่น คงต้องมีชื่อของ Motorola
แบรนด์นี้ยังคงเหนียวแน่นสำหรับคอนเซปท์
อึดทึก กับ Defy Series เปิดตัวด้วย Defy ตัวแรก
ที่เรียกว่าเป็นการกอบกู้ชื่อของ Motorola ในไทย
ให้สาวกได้ยิ้มชื่นตาบานกันอีกครั้ง ต่อด้วย Defy+
ที่ยังคงเดิม แต่ขอเติมสเปคขึ้นนิดๆหน่อยๆ

     ล่าสุดของส่งน้อยเล็กจากตระกูล Defy ด้วย Motorola Defy Mini น้องเล็กที่ขอทำตลาดราคากลางๆ น่ารักๆด้วยสเปคครบสูตรของมือถือแนวสมาร์ท

                                           
     Motorola Defy Mini มาพร้อมหน้าจอ TFT 3.2" (320 x 240) แอนดรอยด์ 2.3.6 (GingerBread) CPU 600 MHz  ROM 512MB  RAM 512MB เชื่อมต่อด้วย microUSB ,WiFi ,Bluetooth ,3G กล้องความละเอียด 3 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟรช กล้องหน้าขนาด VGA เพิ่มหน่วยความจำได้ถึง 32GB และที่ขาดไม่ได้เลยคือ กันฝุ่น และกันน้ำ (การันตีด้วย IP-67) 
     ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนสายพันธุ์แกร่งรุ่นเล็กอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ด้วยสเปคที่ให้มาแบบออลอินวัน กับราคาที่ไม่สูงไปนัก ใครที่กำลังหามือถือทนแดด ทนฝน ทนฝุ่น เหมาะกับฤดูนี้ก็หากันได้ตามชอปทั่วไป





วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Touch to ALCATEL one touch

          Alcatel สำหรับวัยนี้คงไม่คุ้นหู หากย้อนกลับ                         
ไปช่วง 5-6 ปีก่อน Alcatel เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา
หลากหลายรุ่นอยู่ไม่น้อย และดีไซน์ที่ดูแปลกตาเมื่อ                      
เทียบกับหลายๆแบรนด์ที่วางขาย

          ผ่านเวลามานานดู Alcatel จะไม่มีปากมีเสียงใน
บ้านเราเท่าไรนัก ทั้งๆที่ก็ยังพอมีวางจำหน่ายอยู่บ้าง
และยังมีรุ่นใหม่ๆออกมาอยู่เรื่อยๆก็ตามที่ ด้วยความที่
มือถือส่วนใหญ่ของ Alcatel จะเป็นฟีเจอร์โฟน โทรเข้า
ออก ส่งข้อความ ฟังเพลง ถ่ายรูปซะเป็นส่วนใหญ่ 

          Alcatel เมืองไทยยังคงเข็นมาขายอย่างเรียบๆมาเคียงๆ ล่าสุดขอสมาร์ทตามกระแสของโลก ด้วยการจับ
มือถือของตน ส่วมวิญญาณสมาร์ทโฟน อย่างแอนดรอยด์ โดยที่เรียกว่าเป็นการปรับดีไซน์เกือบหมดแผง
จากที่เคยชินกับสไตล์บาร์ไทป์ หรือฝาพับ ก็กลายเป็นจอสัมผัส เน้นความโซเชียล เวิร์ด ...

         Alcatel One Touch 995 คือที่สุดของ Alcatel ในตอนนี้มาพร้อมระบบปฎิบัติการณ์แอนดรอยด์ 2.3.6 (GingerBread) หน้าจอ TFT 16ล้านสี ขนาด 4.3" (480x800) CPU single-Core 1.4GHz  RAM 512MB 
หน่วยความจำภายใน 2 GB เพิ่มเติมได้ถึง 32 GB กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟรช กล้องหน้า 3 แสนพิกเซล เชื่อมต่อมาตรฐานแอนดรอยด์ครบครัน การมาครั้งนี้ในฐานะสมาร์ทโฟนจาก Alcatel มาดูกันว่าจะไปได้ขนาดไหน 

วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

41 ล้านพิกเซล with NOKIA

     เพิ่งจะกลายถึงอดีตอันดับหนึ่งของมือถืออย่าง Nokia ไปไม่ทันไร Nokia ขอเปิดตัวกับนวัตกรรมตัวใหม่กับกล้อง เอ้ย มือถือตัวใหม่ที่ใ่ส่เทคโนโลยีความชัดเวอร์ลงไปใน Nokia PureView 808 กับกล้องความละเอียดถึง 41ล้านพิกเซล อ่านชัดๆ ดีๆ 41ล้านพิกเซล

     Nokia PureView 808 มาพร้อมระบบปฎิบัติการณ์  
Nokia Belle หน้าจอ Amoled 4" (360 x 640 pixel)
CPU 1.3GHz ARM11 รองรับการเชื่อมต่อผ่าน
3G(ทุกเครือข่าย), WiFi, DLNA, GPS, microUSB
หน่วยความจำภายใน 16GB เพิ่มเติมภายนอกได้
ถึง 32GB กล้องหน้าความละเอียด 3 แสนพิกเซล
กล้องหลังความละเอียด 41 ล้านพิกเซล ออโต้
โฟกัส ฟีนอนซ์แฟรช รองรับ HTML5




     สิ่้งที่น่าสนใจที่สุดของ Nokia PureView 808 คงไม่ใช้เพราะระบบปฎิบัติการณ์แน่ๆ เพราะระบบปฎิบัติการณ์ของ Nokia นั้นหากว่ากันตามจริงมันถูกพัฒนาต่อเนื่องมาจาก Symbian ซึ่งความแตกต่างนั้นมันก็มีอยู่ แต่ความตื่นเต้นมันคงไม่ใช่หากถ้าเปรียบเทียบทางฝั่ง iOS หรือ Android  แต่จุดที่น่าสนใจของเจ้าตัวนี้ก็คือ "กล้อง" ...กล้องที่มีความละเอียดถึง 41 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว เรียกว่าถ่ายทีคงเห็นไปถึงเซลล์บนผิวหนังกันเลย แต่ด้วยงบประมาณที่คาดว่าจะเปิดตัวที่หมื่นปลายๆคงต้องมาดูกันถึงความจำเป็นว่า ความละเอียดสูงของตัวกล้อง กับราคาค่าตัว (ที่น่าสนใจเรื่องเดียว) จะสมเหตุ สมผลมากขนาดไหน ถ้ามีตังค์ที่จะหรรษากับความละเอียดของกล้องอันนี้คงไม่ว่ากัน แต่ถ้าดูไปถึงสเปคด้านอื่นของเเครื่องที่เราต้องใช้งานทุกวัน มันจะคุ้มค่า และจำเป็นรึปล่าว นั้นคือสิ่งที่ Nokia ยังต้องพัฒนาให้เทียบเท่า iOS หรือ Android ให้ได้ก่อนที่จะสู้รบปรบมือกันอย่างสูสี


NOKIA PUREVIEW 808


วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

R U Ready...To Nokia again?

     แบรนด์ที่เคยขึ้นจุดสูงสุดของวงการมือถือ คงไม่มีใครไม่รู้จัก Nokia หากแต่ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว Nokia ถือว่าเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดแบรนด์เลยทีเดียว ใครที่จะเลือกซื้อมือถือสักเครื่อง เชื่อว่าส่วนใหญ่ Nokia คือแบรนด์แรกที่คนจะพูดถึง

     แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทรนด์การใช้ของคนก็เปลี่ยนตาม Black Berry ,iPhoe ,Android กลับขึ้นมาผงาดแทนในเวลาชั่วพริบตา ทำให้แบรนด์ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเจ้าตลาด ก็ได้รับความนิยมน้อยลงเรื่อยๆ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา Nokia พยายามอย่างยิ่งที่จะขอกลับมาทวงบังลังค์คืน แต่ดูทีท่าของเทรนด์ปัจจุบัน ต้องบอกว่ายากจริงๆกับการพยายามของ Nokia ยิ่งไปกว่านั้น Nokia ได้ผูกตัวเองกับระบบปฎิบัติการณ์อย่าง Symbien ที่เคยทำมาตลอดแต่ก็พันาเพื่อให้เข้ากับยุค กับสมัย และยังร่วมพัฒนากับ Microsoft ที่จะทำวินโดว โฟนมาขอแชร์ส่วนแบ่งสมาร์ทโฟน


      คำถามสำหรับ Nokia ตอนนี้คือ ยังคาดหวังจะกลับมาในฐานะเบอร์หนึ่งได้อยู่ไหม และทำไม Nokia จึงไม่หันไปทำระบบปฎิบัติการณ์อย่าง แอนดรอยด์ ซึ่งเป็นระบบปฎิบัติการณ์ไม่แพ้ iOS และยังได้รับความนิยมมากกว่าระบบปฎิบัติที่ Nokia ทำอยู่ทุกวันนี้ ต้องบอกว่าดีไซน์ของ Nokia ในยุค 2012 ถูกปรับให้เข้ากับเทรนด์ได้อย่างสวยงาม หากยิ่งได้ระบบปฎิบัติการณ์ที่ได้รับความนิยมเข้าไป มันไม่ยากเลยที่ Nokia จะกลับมาอีกครั้ง








Find To Gemini


     นาทีนี้หากยังมีคนไม่รู้จักแบรนด์ OPPO คงต้องบอกว่าเชยมาก นอกจากจะเป็นเจ้าตลาดด้านเครื่องเสียงของบ้านเกิดตัวเองอย่างจีนแล้ว ยังข้ามมาทำตลาดมือถือ และมาขายในบ้านเราอีก


     OPPO ส่งมือถือมาวางขายแล้วหลายรุ่น ล่าสุดก็พามือถือในฐานะสามาร์ทโฟสุดเท่อย่าง Find 3 และน้องเล็ก 2 ซิมคุณภาพคับเครื่องมาลงตลาด สร้างความฮือฮาให้หลายค่ายได้หนาวๆ ร้อนๆก็เป็นแถว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากับงาน Thailand International Mobile Show 2012 ก็ยังเปิดตัวสองรุ่นล่าสุด โดยขอเรียกน้ำย่อยสำหรับผู้ที่สนใจด้วยการสั่งจองเครื่องอย่าง OPPO Finder สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ชูจุดขายว่าบางที่สุดในโลก ด้วยขนาดเพียง 6.65 มม. และ OPPO Find Gemini แอนดรอย์ 2 ซิมที่ขอเพิ่มสเปคจากตัว Find My Guitar ให้ดูเหมาะกับวัยโตมากยิ่งขึ้น

     Find Gemini มาพร้อมแอนดรอยด์ 2.3(อัพเกรด 4.0)  หน้าจอ IPS 4" (800x480 pixel) CPU Single-Core 1 GHz กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล เชื่อมต่อด้วย Bluetooth, 3G(รองรับทุกค่าย), WiFi(WifiHotspot), microUSB แบตเตอรี่ขนาด 1,710 mAh รองรับการใช้งานได้มากขึ้นด้วย 2 ซิม จะใช้งานด้วยเบอร์หนึ่ง และเชื่อมต่อเน็ทจากอีกเบอร์ก็สามารถ 
    
      ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย และยิ่งราคาเปิดตัวไม่ถึง 9,000 บาทยิ่งทำให้เจ้า OPPO Find Gemini เครื่องนี้เป็นที่ดึงดูดได้ไม่ยากเลย คาดว่าน่าจะขายเต็มสตรีมเร็วๆนี้ หากใครสนใจมือถือ 2 ซิมสมาร์ทโฟน เตรียมตัวเสียตังค์ได้เลย
OPPO FIND GEMINI